สาเหตุของสิวหิน วิธีรักษา และการป้องกัน
สิวหินเป็นสิวลักษณะตุ่มเล็กอาจมีหัวสีขาวหรือไม่มีสีแต่เป็นสิวที่ไม่มีหัวโผล่ของมาให้ได้เห็นจะเป็นอยู่ใต้ชั้นผิวหนังหากคุณอยากทราบว่าเพราะอะไรจึงเกิดสิวหินเหล่านี้ได้เรามีสาเหตุของการเกิดและการรักษารวมทั้งวิธีป้องกันมาให้ได้อ่านกัน ดังนั้นไปดูกันเลย
สาเหตุของสิวหิน
สาเหตุของการเกิดสิวหินยังไม่สามารถสรุปได้แน่นอนแต่การเกิดสิวหินแบ่งได้ตามช่วงไวดังนี้
- ช่วงแรกเกิด พบได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าเกิดจากต่อมไขมันในเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ซึ่งจะเกิดขึ้นตาม จมูก ศรีษะ ใบหน้า ภายในปาก เมื่อผ่านไปสองถึงสามสัปดาห์จะหายไปได้เอง
- สิวหินในเด็กและผู้ใหญ่ เกิดจากเส้นใยเคราตินที่ติดสะสมใต้ชั้นผิวหนัง โดยจะมีอยู่ที่เปลือกตา หน้าผาก ซึ่งไม่กี่สัปดาห์ก็จะหายไปได้เอง
- สิวหินที่เกิดในกลุ่มวัยรุ่น อาจเกิดจากโรคบางอย่าง เช่นกลุ่มอาการการ์เนอร์
วิธีการดูแลรักษาสิวหิน
ใครที่กำลังเจอกับปัญหาสิวหิน คุณสามารถรักษาให้หายได้ แม้จะรักษายากและต้องใช้เวลาสักนิด แต่ถ้าทำตามวิธีต่อไปนี้ จะทำให้สิวหินหายเร็วขึ้นอย่างแน่นอน
1.ไม่แคะ แกะ เกา หรือเอาสิวออก
หากคุณพยายามไปยุ่งวุ่นวานกับสิวหินที่เป็นอยู่ก็จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นมาแทนเพราะตัวสิวหินนั้นโดยปกติก็จะไม่ได้ทำให้คุณเป็นอะไรมาก ไม่เจ็บแม้จะไปสัมผัสโดนก็ตามแต่สิวหิวจะเป็นการทำให้ผิวไม่เรียบเนียนสร้างความรำคาญใจเสียเป็นส่วนมาก
2.ดูแลความสะอาด
สิวหินเป็นการอุดตันของต่อมไขมัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการลุกลามก็ควรรักษาความสะอาดของใบหน้าไม่ให้เกิดความมันจนเกินไปและไม่ควรปล่อยใบหน้าให้สกปรกเพราะจะเป็นการก่อให้เกิดการสะสมของเซลที่ตายแล้ว
3.ล้างหน้า 2 รอบ
การล้างหน้า2ครั้งในรอบเดียวควรทำคือหลังจากกลับมาทำงานเพราะในแต่ละวันคุณต้องเจอฝุ่นและความสกปรกมาทั้งวันแต่รอบเช้าเป็นการล้างหน้าเพื่อไล่ความมันบนใบหน้าซึ่งผิวไม่ได้เจอสิ่งสกปรกมากเหมือนรอบเย็น การล้างรอบแรกในการล้างหน้าควรล้างด้วยวิธีปกติเพื่อความสะอาดของใบหน้ารอบที่สองจึงใช้โฟมสำหรับผู้เป็นสิวล้างหน้าเพื่อให้ผิวสะอาดมากยิ่งขึ้น
4.เลเซอร์
หากการรักษาแบบอื่นไม่เร็วพอให้คุณแล้วละก็ การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ก็สามารถทำให้สิวหินที่คุณรำคาญหายได้ไวขึ้น แพทย์จะทำการยิงเลเซอร์เพื่อเป็นการทำลายสิวหิวให้หมดไปในทันทีซึ่งวิธีนี้จะไม่ทำให้เป็นแผลเป็นแต่อย่างใดแต่อาจมีรอยดำบ้างในช่วงแรกที่ทำ
5.ปูนแดง
การใช้ปูนแดงป้ายเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำกันมาช้านานแล้ว เพียงนำปูนแดงมาแต้มๆบริเวณที่เป็นสิวทุกวันก่อนนอนไม่กี่วันสิวหินก็จะหลุดออกมาเองโดยที่ไม่ต้องไปกดให้เจ็บเลยทีเดียวแต่วิธีนี้หากคุณเป็นคนที่ผิวบอบบางควรสักเกตตัวเองว่ามีการระคายเคืองแสบร้อนหรือไม่หากมีควรหยุดทำทันทีและควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์เป็นคนกดสิวออกให้เลี่ยงการระคายเคืองจนกลายเป็นสิวอักเสบ
6.ใช้ครีมผสมเรตินอย
การใช้ครีมผสมเรตินอยจะเป็นการช่วยให้หัวสิวที่อุดตันหลุดออกมาแต่การรักษาด้วยวิธีนี้จะต้องใช้เวลาที่ค่อนข้างนานจึงได้ผลและต้องระวังเรื่องการใช้รอบดวงตาเพราะเรตินอยเป็นยาที่ต้องจ่ายด้วยแพทย์เป็นยาที่ค่อนข้างอันตราย
7.การผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิวจะเป็นการช่วยให้มีการกระตุ้นการเกิดผิวใหม่และยังทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกมา โดยการผลัดเซลล์ผิวนั้นคุณสามารถทำได้ทั้งการพบแพทย์และวิธีการทำด้วยตัวเองด้วยการใช้สูตรสมุนไพรต่างๆ
8.มาร์กหน้าด้วยน้ำผึ้งมานูก้า
ที่ต้องใช้น้ำผึ้งมานูก้าเพราะเป็นน้ำผึ้งสดที่จะช่วยให้ผิวของคุณสามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน และในน้ำผึ้งมานูก้าเองมีตัวต้านแบคทีเรียซึ่งจะเป็นการยับยั้งการเกิดสิวหินได้เป็นอย่างดี
ป้องกันสิวหินได้อย่างไร
ไม่อยากเป็นสิวหิน สามารถป้องกันได้ไม่ยาก โดยมีวิธีการป้องกันอย่างไรต้องไปดูกันเลย
1.เลือกคลีนซิ่ง
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ไปเพิ่มน้ำมันส่วนเกินให้ผิวจะเป็นการป้องกันการเกิดสิวหินได้ดีเพราะเมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันขึ้นมาแต่น้ำมันที่ได้กลับไม่สามารถทะลุเนื้อเยื่อขึ้นมาบนผิวหนังจนสะสมได้การลดปริมาณน้ำมันในร่างกายย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเริ่มจากผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่คุณมีก่อนเลย ว่าเป็นสูตรที่มีน้ำมันน้อยหรือไม่หากเป็นสูตรของคนผิวแห้งละก็ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าคุณต้องเปลี่ยนเพราะผลิตภัณฑ์ของสาวผิวแห้งนอกจากจะไม่ควบคุมความมันแล้วยังมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบค่อนข้างมากอีกด้วย
2.เครื่องสำอางค์
เครื่องสำอางที่ใช้ต้องดูสักนิดว่าจะเป็นตัวทำให้เกิดการอุดตันหรือไม่เพราะหากคุณใช้เครื่องสำอางในทุกๆ วันแล้วมีการล้างที่ไม่สะอาดพอก็จะทำให้เกิดการสะสมจนเกิดเป็นสิวได้ และเครื่องสำอางค์บางอย่างหากไม่จำเป็นก็ให้ลดการใช้ลงจะเป็นการช่วยให้ใบหน้าไม่ต้องรับบทหนักมาก แต่ทั้งนี้หากสามารถงดใช้เครื่องสำอางได้ก็จะดีมาก หรือพยายามแต่งหน้าแบบบางๆ ก็เพียงพอแล้ว
3.ใช้ครีมกันแดด
การเลือกครีมกันแดดให้เป็นแบบน้ำหรือมีส่วนผสมของน้ำมันที่น้อยก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ผิวหน้าไม่ก่อให้เกิดความมันขึ้นอีกและครีมกันแดดจะเป็นตัวช่วยให้ผิวไม่ถูกแสงยูวีทำลาย เพราะแสงยูวีคือตัวทำลายผิวที่ลึกถึงชั้นหนังแท้และเมื่อโดนแสงแดดมากๆร่างกายก็จะสร้างน้ำมันเพื่อเป็นการปกป้องผิวหน้าเมื่อคุณไม่ได้ใช้กันก็จะทำผิวหน้าเร่งสร้างน้ำมันขึ้นมาจนมากเกินปกติและจะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิวต่างๆรวมไปถึงสิวหิวอีกด้วย
4.เลี่ยงการสัมผัสหน้า
มือของคนเป็นแหล่งพาหะชั้นดีที่จะส่งความสกปรกและเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ใบหน้าเมื่อต้องใช้มือทำงานหลายๆอย่างแล้วไม่ได้มีการล้างมือให้สะอาดแล้วคุณนำมือนั้นมาจับใบหน้าก็จะทำให้เกิดสิวขึ้นได้แม้กระทั่งสิวหินหากคุณค่อยไปสัมผัสเรื่อยๆหรือค่อยแกะ คอยสะกิดอยู่ตลอดเวลา ก็อาจทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ ยิ่งสิวหินเป็นสิวที่ไม่ได้โผล่ออกมานอกชั้นหนังอาจส่งผลให้เกิดกลายเป็นสิวอักเสบที่เป็นแบบสิวซีสต์ที่น่ากลัวมากเพราะจะทำให้คุณเจ็บปวดมากทีเดียว หากจำเป็นจริงอย่างน้อยก็ควรล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลก่อนสัมผัสใบหน้าเพื่อป้องกันความสกปรกที่จะถูกนำไปสู่ใบหน้า
5.ดูแลสิ่งของรอบตัวให้สะอาด
การรักษาความสะอาดสิ่งของที่ต้องใช้งานเป็นประจำก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะสิ่งของต่างๆที่อยู่รอบตัวคุณย่อมได้สัมผัสกับผิวหน้าคุณเป็นประจำการปล่อยให้สิ่งสกปรกจากข้าวของที่ใช้อยู่ทุกวันเป็นการเพิ่มช่องทางให้เกิดสิวได้มากกว่าเดิม อย่างน้อยก็ควรเช็ดหน้าจอมือถือด้วยแอลกอฮอล์ ซักปลอกหมอนให้เป็นนิสัยก็จะช่วยให้ใบหน้าไร้สิวขึ้นได้แล้ว
6.บำรุงผิวหน้า
การขัดผิวมาร์กหน้าก็เป็นส่วนที่จะช่วยให้ผิวไม่เกิดสิวเพราะเมื่อมีการขัดผิวเอาเซลล์ที่ตายออกแล้วยังเป็นการช่วยให้สิวหินที่ตกค้างอยู่ค่อยๆหลุดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและใบหน้ายังสดใสผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
การดูแลผิวที่เป็นสิวหินก็มีความจำเป็นไม่แพ้การรักษาดังนั้นคุณไม่ควรละเลยผิวหน้าของคุณเพียงเพราะเห็นว่ากำลังรักษาสิวอยู่ผิวหน้าที่แข็งแรงก็สามารถทำให้สิวหินที่มีอยู่หลุดออกหรือหากรักษาด้วยเลเซอร์มาผิวหน้าที่แข็งแรงก็จะเป็นตัวช่วยทำให้รอยรักษาหายได้ไวขึ้น
อ่านบทความ ulthera